Google Analytics 4
เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เวอร์ชั่นใหม่ ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ใช้ได้ไม่นานประมาณปี 2020
ซึ่งสามารถที่จะวัดผลได้ทั้งบนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันในที่เดียวกัน
10 เหตุผลที่ควรใช้
1. ติดตั้งได้ทั้งบนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
สามารถติดตั้งเพียงแค่รอบเดียวแล้วสามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน
ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Androidอย่างไรก็ตามจะต้องติดตั้งด้วยการเชื่อมผ่าน Firebase
ซึ่งจะทำให้เราสามารถตรวจสอบและวัดผลคนเข้าใช้งาน เว็บและแอปพลิเคชันในที่เดียวกัน
โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือไปมา
2. ตั้งค่า Conversions ง่าย และไม่ยุ่งยาก
GA4 สามารถเปลี่ยนไปเป็น Conversions ได้ง่าย เพียงแค่คลิกเลือกแค่อีเว้นท์
ที่เราต้องการจะเปลี่ยนมาเป็นคอนเวอร์ชั่นเท่านั้น
3. Engagement Rate
Google Analytics 4 ได้สร้างเมทริกซ์ใหม่ขึ้นมาเรียกว่า‘Engagement Rate’ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจว่า
บทความนั้นๆ มี Engagement อย่างไรบ้างซึ่งถ้ามีจำนวนที่ยิ่งสูง ก็ยิ่งดี
4. สามารถสร้าง Audience แล้วแชร์ให้ Google Ads ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกฟังก์ชั่นที่เรียกว่า ‘Predictive Audiences’ที่ทาง Gooogle จะเลือกใช้ Machine Learning
ในการจัดการให้เรา เพื่อมองหา Audience ที่มีความใกล้เคียงกับ Users กลุ่มนั้นๆ
5. เราสามารถสร้าง Report Interface ได้ตามแต่ที่เราต้องการ
สามารถแก้ไขให้แสดงได้ตามที่ใจชอบ การเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้จะไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะคุณเท่านั้น
หากแต่ว่าจะยังอัปเดตไปยังผู้ใข้งานรายอื่นๆที่อยู่ภายใต้ Property เดียวกันด้วย
6. เราสามารถเปลี่ยน Attribution Modeling ได้
GA4 มีหลากหลาย Model ให้เราสามารถเลือกได้ โดยที่ค่าเริ่มต้นจะเป็น ‘Data-Driven’
เช่น Last-click, First-click, Position-base หรือ Time-decay อย่างไรก็ตามถ้าต้องการจะ
Import Conversion จาก GA4 ไปยัง Google Ads จะต้องเปลี่ยนจากData-Driven ไปเป็น Last-click
เพื่อให้สามารถแชร์ข้อมูลหากันได้
7. Exploration Reports สร้าง Dashboard ของตัวเองบน GA4
สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และสร้างกราฟได้เองบน Exploration Reports ซึ่งจะทำให้เราสร้างได้กราฟ
ได้ไม่ต่างจาก Data Studio หากแต่ว่า Data ที่นำมาใช้จะขึ้นอยู่กับ Data Retention ที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้
8. Bounce Rate ที่ตรงขึ้นกว่าเดิม
จะอยู่ในส่วนของ Exploration Reports
เมทริกซ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อ Users เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา แม้ว่าจะอ่านบทความค่อนข้างนาน เช่น 10 นาที แล้วออก
โดยไม่เกิด interaction ใดๆ เกิดขึ้น ระบบก็จะนับว่า Users นั้น Bounce ออกไป ขณะเดียวกัน
Bounce Rate บน GA4 นั้นคำนวณด้วยวิธีที่ต่างกันออกไปโดยที่จะนับจากยอดที่เหลือจาก Engagement Rate
9. Debug View บน GA4
สามารถดูได้ว่า Events ที่ได้ติดตั้งไปบนเว็บไซต์ เป็นไปตามที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้หรือไม่
โดยฟังก์ชั่นนี้จะทำงานเมื่อเราเปิด Preview Modeบน Google Tag Manager เพียงเท่านั้น
โดยทุกอีเว้นท์ที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ และมีการติดตั้งที่ถูกต้องDebug view จะแสดงให้เห็นชื่อ Events นั้นๆ
10. เก็บข้อมูลเข้า Google Big Queries
สำหรับคนที่ชอบเขียน SQL (Structured Query Language)ทำให้คุณสามารถที่จะจัดการข้อมูลของ GA4
ได้ด้วยตัวเองโดยระบบของ Google Analytics 4จะสามารถเชื่อมมายัง Google Big Quries ได้
โดยที่เวอร์ชั่น Stardard นั้นจะสามารถเชื่อมมาได้ประมาณ 1 ล้านแถว
ต้องการปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อทีม Kenzo
Inbox : m.me/kenzokimura.co
Follow Us on Facebook :https://www.facebook.com/kenzokimura.co
อ่านเพิ่มเติม กด https://kenzo-kimura.com/
